26 ส.ค. 2548

สูญเสีย


มีใครเคยได้ยินที่ผู้หลักผู้ใหญ่เขาพูดถึงคนปลูกต้นไม้ที่มือร้อนมือเย็นบ้างไหมหนอ ? ฉันเคยได้ยิน เขาหมายความว่า การปลูกต้นไม้นั้นขึ้นอยู่กับคนปลูกด้วย คนที่มือร้อนจะปลูกต้นไม้ไม่ขึ้น ปลูกไปก็ไม่งามนับวันแต่จะเฉาโรยรา ส่วนคนที่มือเย็นปลูกต้นไหนก็เติบโตเขียวสวยงามสดชื่น ฉันเคยคิดตามเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ฉันถือว่าเป็นแค่เรื่องความเชื่อ สองมือของคนเราจะแปลกตรงไหนหนอ ต้นไม้จะงามไม่งามน่าจะขึ้นอยู่กับว่าปลูกถูกหลักหรือเปล่า และดูแลเอาใจใส่ดีแค่ไหน...

แต่มาวันนี้ความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ฉันเริ่มสั่นคลอนไปแล้วล่ะ เหตุเกิดจากว่า เมื่อฉันเริ่มมีร้านต้นไม้เล็กๆ เป็นของตัวเอง และมีคนช่วยทำสวนอยู่ร่วมในร้านหนึ่งคน ฉันเรียกเขาว่าลุง ก่อนหน้านี้ลุงเป็นช่างก่อสร้าง ไม่เคยจับต้นไม้มาก่อน แต่ฉันคิดว่าคงไม่ยากเกินไปคงเรียนรู้กันได้ ฉันพยายามจัดร้านเล็กๆ ของฉันให้เป็นแบบสวน คือเราสามารถนั่งเล่นพักผ่อนได้เหมือนอยู่ในสวน ด้วยความตั้งใจแบบนี้ ฉันจึงขนต้นไม้ที่แสนรัก ปลูกไว้นานกำลังงามดิบดี และโตเต็มที่เพื่อที่จะมาปลูกลงดินในร้าน ฉันให้ลุงเป็นคนปลูก เพื่อที่จะให้ลุงได้เรียนรู้ ฉันวาดไว้เมื่อต้นเหล่านี้ อันได้แก่ กาสะลองคำ พุดกุหลาบ พุดน้ำบุศย์ มโนรา และไข่ดาวของฉัน ออกดอกบานสะพรั่งมันคงจะงดงามเอามากๆ...
สามสี่วันที่ปลูกลงดินไป ฉันรู้สึกว่าตัวเองคงจะฝันสลาย ต้นไม้เหล่านั้นเริ่มเหลือง แห้ง ใบร่วงโรยรา วันสองวันแรกฉันปลอบใจตัวเองว่าต้นไม้คงกำลังปรับสภาพ ในขณะเดียวกันฉันก็รู้สึกเศร้าใจ และเป็นทุกข์ มันหม่นหมองตามต้นไม้ที่โรยรา...จนถึงวันที่สี่ห้า ฉันรู้ว่าตัวเองสิ้นหวัง ต้นไม้แห้งแทบตายสนิท ฉันรู้สึกเสียใจมากๆ เพราะต้นเหล่านี้ฉันปลูกด้วยความรักมาแสนนาน โดยเฉพาะต้นไข่ดาว ที่ฉันรักนักหนา ต้นนี้ฉันเลี้ยงตั้งแต่ยังเด็ก ยังจำได้ว่าเมื่อฉันเริ่มเปิดสวน MorningGarden ครั้งแรกที่แห่งนี้ เป็นเวลาเดียวกับไข่ดาวดอกแรกของต้นบาน ฉันดีใจจนเนื้อเต้น และไข่ดาวดอกแรกของต้นนี้จึงเป็นที่มาของภาพ logo ของ morninggarden.com ด้วยใจก็คิดด้วยว่า ไข่ดาวก็เป็นอาหารยามเช้าที่ไม่เลวนะ เข้ากันพอดี หลังจากนั้นฉันก็ฟูมฟักต้นจนโตเรื่อยๆ ออกดอกไม่ขาดสาย มาวันนี้ฉันต้องทำใจอำลา ไข่ดาวคงไม่มีวันกลับมาเบิกบานให้ฉันได้ชืื่มชม ฉันไม่อยากเชื่อต้นไม้ที่เติบโตและแข็งแรง จะตายได้รวดเร็วขนาดนั้น

ความรู้สึกสูญเสียยังไม่จบลงแค่นั้น ฉันยังไม่คิดถึงเรื่องมือร้อนมือเย็น คิดว่าคงเป็นเรื่องของการปรับสภาพต้นไม้ไม่ทัน ยังเหลืออีกต้นที่แสนรัก "พวงแก้วกุดั่น" จำได้ว่าครั้งแรกที่ได้เห็นดอกแรกของต้นตื่นเต้นเพียงใด ดอกสวยมากๆ ฉันฟูมฟักมาอย่างดี พวงแก้วกุดั่นมีช่วงออกดอกเพียงปีละครั้ง ปีนี้ต้นโตขึ้นเยอะ ฉันหวังจะได้เห็นพวงแก้วกุดั่นบานสะพรั่งงดงามอีกครั้ง ครั้งนี้ฉันไม่ลงดิน แต่ต้องการเปลี่ยนกระถาง เพราะต้นโตขึ้นมาก ฉันต้องเปลี่ยนโครงเลื้อยให้ใหม่ด้วย ฉันให้คุณลุงลองดูอีกครั้ง หวังใจว่าคราวนี้เปลี่ยนกระถางไม่เป็นไรอยู่แล้ว เพราะยกมาทั้งดินในกระถาง และต้นก็สดชื่นแข็งแรงดีอยู่มาก แต่...เพียงข้ามคืนผ่านไป หนึ่งวันจริงๆ ฉันต้องใจสลายอีกครั้ง พวงแก้วกุดั่นของฉันเหี่ยวแห้งและตายสนิท ฉันถึงกับน้ำตาซึม เป็นไปได้จริงๆ หรือ


มาถึงตอนนี้ ใจของฉันอดแวบคิดไปถึงเรื่องมือร้อนมือเย็นไม่ได้ มันเป็นไปได้จริงเหรอ ไม่เอาน่ะ อย่าคิดอะไรในทางที่ที่ทำให้ใจหม่นหมอง มันคงเป็นแค่เพียงความบังเอิญ ฉันควรจะพยายามลองใหม่ พยามยามหาวิธีให้ลุงปลูกต้นไม้แล้วไม่ตาย ฉันควรจะมีส่วนรับผิดชอบในโจทก์นี้ด้วย หากฉันคิดว่าตัวเองรักต้นไม้ ฉันจะต้องทำให้ลุงปลูกต้นไม้ให้สวยงามให้ได้ เพื่อชดเชยกับความรู้สึกที่สูญเสียไปนี้

24 ส.ค. 2548

ลั่นทม หรือลีลาวดี ชื่อนั้นจะสำคัญไฉน


สองสามวันที่ผ่านมาได้ฟังกระแสข่าวเกี่ยวกับเรื่องชื่อของลีลาวดีจากสื่อต่างๆ ฟังแล้วก็อดจะคิดตามไม่ได้ พอจะสรุปให้ฟังคร่าวๆ ได้คือ ตามที่รู้ๆ กันว่า ชื่อ "ลั่นทม" แต่เดิมนั้น ตอนนี้เป็นชื่อ "ลีลาวดี" ที่ติดปากแล้ว หลายๆ คนสร้างกระแสว่า "ลีลาวดี" นั้น เป็นชื่อที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานให้เพื่อเป็นสิริมงคล เนื่องจากไม้ชนิดนี้เป็นพรรณไม้มงคล แต่กลับเรียกว่า "ลั่นทม" หลายคนจึงสับสนและเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าเป็นชื่อพระราชทานจริง

พอเข้าใจว่าเป็นชื่อพระราชทานแค่นั้นแหละ ลั่นทมก็ดังเปรี้ยงปร้างในนามของลีลาวดี หลายๆ คนก็ขวานขวายหาทางขยายพันธุ์จนได้มาหลากสีสัน และเข้าสู่กลไกทางการตลาดที่ว่าเมื่อมีผู้นิยมบริโภคมากราคาก็สูงตาม ราคาลีลาวดีในตลาดจึงสูงจนน่าขนลุก
ฉันนึกไปถึงต้นลั่นทมที่ฉันเคยรู้จัก แต่ก่อนเมื่อเดินผ่านวัด ฉันชอบเหลียวมองต้นลั่นทม ฉันรู้สึกว่าต้นนี้ดูสวยสง่างาม และมีกลิ่นหอม แต่เพราะถูกปลูกฝังข้อมูลมาว่า ชื่อนี้ไม่เป็นมงคลนะ ฉันจึงคิดว่าลั่นทมควรอยู่แต่ที่วัดเท่านั้น มันดูขลังจนไม่ควรนำมาปลูก

มาถึงวันนี้เมื่อจู่ๆ ลีลาวดีเป็นที่นิยมกัน ฉันก็ยังไม่สามารถนำมาปลูกได้ เพราะรับราคาไม่ไหว แล้วก็มีการขุดค้นถึงความหมายที่แท้จริงของชื่อลั่นทมเดิม เพื่อให้เป็นที่ยอมรับกันว่า "ลั่นทม" ไม่ใช่ความหมายในทางลบ คำว่า "ลั่นทม" เป็นคำผสมจากคำว่า "ลั่น" กับคำว่า "ทม" ซึ่งคำว่า "ลั่น" นั้นมีความหมายว่า ละทิ้ง เลิก คำว่า "ทม" มาจากคำว่า ระทม ความระทม ความเศร้าหมอง เมื่อนำมารวมกันจึงมีความหมายถึง ละทิ้งความระทม ละทิ้งความเศร้าหมองต่างๆ ให้มีแต่ความสุขสดใส

มาวันนี้เมื่อกระแสข่าวออกมาอีกครั้ง ว่าชื่อลีลาวดีไม่ใช่ชื่อพระราชทาน และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้ทรงทักท้วงเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้ว ฉันคิดว่าอาจจะช่วยฉุดรั้งไม่ให้เราๆ ที่รักต้นไม้ ต้องร้อนรนต่อสู้กับราคาที่สูงลิบลิ่วขนาดนั้น แต่อนาคตของลีลาวดีจะเป็นอย่างไรฉันก็ยากจะเดา ได้แต่หวังขอให้เป็นว่า ราคาของลีลาวดีลดต่ำลงอยู่ในราคาที่พอเหมาะพอควร แต่คนยังนิยมเหมือนเดิม หรือมากกว่าเดิมเพื่อให้เป็นช่องทางให้เกิดสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่สวยงาม ฉันคงจะสงสารต้นลั่นทมมาก หากจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่จะทำให้เจ้าต้นนี้เป็นดอกไม้ที่ทั้งต้องห้ามอีกครั้ง แถมยังถูกเมินเฉย ไม่แยแส เมื่อคิดว่าไม่ได้มีคุณค่าอย่างที่ใจคิด เหมือนต้นไม้หลายๆ ชนิดที่วนเข้าสู่กระแสตลาด แล้วถูกทอดทิ้งไปเมื่อหมดความนิยม

23 ส.ค. 2548

รักดอกพุด

ฉันพูดถึงพุดอยู่บ่อยๆ เพราะในใจที่รักดอกไม้มีความผูกพันอยู่กับพุด ทุกครั้งที่นึกถึงดอกไม้ที่ชอบจะมีดอกพุดอยู่ในนั้นเสมอ บันทึกนี้จึงอยากสะสมดอกพุดทั้งหลายอีกสักครั้ง เริ่มจากพุดแตรงอนที่ฉันรักนักหนา ชอบในความสวยแปลกตา และมีกลิ่นหอม



พุดดอกที่สองที่รักและผูกพันคือพุดบูรพา ที่รักนักหนาของดอกนี้คือลักษณะของกลีบดอก


พุทธชาติ มีเสน่ห์ที่กลิ่นหอมมากยามเย็นๆ

และสวยมากๆ ในแบบไม้เลื้อยคือพุทธชาติหลวง

ขาวๆ มาตลอด แทรกด้วยสีสวย และความหอมที่ชื่นชมของพุดน้ำบุศย์ หอมชื่นใจแม้ยามอยู่ในบ้านกลิ่นยังรวยรินมา

และพุดนี้แม้โดยวงศ์ไม่ใช่กลุ่มพุด แต่หนึ่งในชื่อของเขามีขึ้นต้นด้วยคำว่าพุด ว่า "พุดชมพู" จึงออกจะมองมาอยู่ในกลุ่มเดียวกัน น่ารักมากๆ นอกจากความสวยหวานยังเลี้ยงง่ายและโตไว ออกดอกตลอด

พุดนี้ยังไม่รู้ว่าที่มาเป็นอย่างใด ทำไมจึงเรียกพุดทุ่ง คงเป็นเพราะส่วนใหญ่เกิดอยู่ป่าธรรมชาติ และสีขาวเหมือนกลุ่มพุด แต่เป็นอีกพุดที่ชื่นชอบ

"พุดกุหลาบ" เข้าใจคิดชื่อเนอะ หน้าตาเป็นพุด แต่กลีบดอกและการจัดเรียงเหมือนดอกกุหลาบ ดูสวยไม่เบา

พุดสุดท้ายที่บันทึกไว้ตรงนี้ แม้จะมีพุดอีกมากมายที่ชื่นชอบ พุดนี้เรียกว่าพุดน้ำ คงเพราะชอบเกิดริมน้ำ สวยแปลกตาอย่าบอกใคร

21 ส.ค. 2548

เสน่ห์และความน่ารัก...ในแบบเรียบง่าย


เห็นบัวบาบานรับแสงแดดจ้า รู้สึกต้องตาอดเก็บภาพไว้ชื่นชมนานๆ ไม่ได้ บัวบาจะบานสดใสเมื่อต้องแสงแดดเท่านั้น ดูเหมือนเป็นกฎง่ายๆ ที่สามารถเดาได้ และเป็นแบบนี้ไม่มีอะไรผันแปร ในบางมุมมองเจ้าดอกนี้ก็รู้สึกแปลกๆ พอแสงบ่ายคล้อย ย่างเข้าสู่ช่วงยามเย็น ดอกเหี่ยวและหุบสนิท เหมือนเช้าที่ผ่านมานี้ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เห็นบัวบาบานทีไรนึกถึงความน่ารักแบบมีเสน่ห์ ที่เรียกว่ามีเสน่ห์เพราะแม้จะเป็นดอกไม้ที่น่ารัก หลายคนไม่ค่อยรู้จัก แต่พอใครเห็นจะถามฉันเสมอว่าว่า "เจ้าดอกนี้ชื่อไรหนอ ?"


มะลิพวงอีกหนึ่งของความสวยแบบเรียบง่ายในความรู้สึก มีเสน่ห์ที่สีขาวบริสุทธิ์ และหอมชื่นใจเมื่อได้สูดกลิ่น จนป่านนี้ฉันก็ยังมึนงงสับสนกับสารพัดมะลิ รวมไปถึงพุดบางชนิด ไม่ว่าจะเป็น มะลิลา มะลิวัลย์ มะลิซ้อน มะลิหลวง พุทธชาติ และ... แต่ที่แน่ๆ สีขาวบริสุทธิ์ และกลิ่นหอมชื่นใจของดอกไม้กลุ่มนี้มีเสน่ห์เหลือหลาย
ยังมีอีกหลายๆ ดอกที่เป็นเสน่ห์ความสวยแบบเรียบง่ายสำหรับฉัน เพียงแค่ส่งบัวบาและมะลิพวง มาส่งแทนใจและความรู้สึกของดอกไม้ในวันหยุด อ้อ! ไม่ใช่สิ ฉันเกือบลืมพูดถึงอีกหนึ่งความน่ารักที่โดนใจ "สายป่านดวงใจ" ใครหนอช่างคิดชื่อนี้ ฟังเพียงแค่ชื่อหัวใจยังสั่นไหว หากเก็บหัวใจของใครๆ มาร้อยเรียงในสายป่านได้ หัวใจของใครๆ ก็คงไม่หนีจากเราไปไหน

19 ส.ค. 2548

วันนี้...รดน้ำต้นไม้แล้วหรือยัง


ภาพ: เพชรพระอินทร์

เ คยคิดมั๊ย ว่าบางครั้งบางสิ่งบางอย่างอาจจะหายไปจากชีวิตเรา เพียงเพราะแค่เราปล่อยสิ่งนั้น หรือวันเวลานั้นให้ผ่านเลย ไม่ไขว่คว้าหรือเก็บรักษาโอกาสนั้นไว้ สิ่งนั้นจึงจากเราไปอย่างน่าเสียดาย
ฟ ังๆ ดูคงเหมือนกับฉันกำลังพูดถึงเรื่องปรัชญาชีวิตอะไรสักอย่าง เปล่าหรอกเป็นเพียงแค่ความรู้สึกที่ได้ค้นพบจากเช้าวันหนึ่งที่ลงมือรดน้ำต้ นไม้ หลังจากที่อู้มาหลายวัน ด้วยเหตุผลที่ให้กับตัวเองว่า "ฉันไม่ว่างเลย" เพราะหาภารกิจใส่ตัวมากมาย เหนื่อยจนรดน้ำต้นไม้ไม่ไหว ทั้งที่แต่ก่อนเคยรดเองอยู่ทุกวัน ดอกไหนบานต้นไหนเฉาไม่เคยพ้นสายตา แต่ช่วงนี้เหนื่อยเลยหาเหตุอู้ ประกอบกับมีคนอื่นให้ได้ไหว้วานรดให้ได้ เช้าวันนี้รู้สึกคิดถึงต้นไม้ที่รักตะหงิดๆ จึงสบโอกาสเหมาะที่จะรดน้ำเองสักวันหลังจากที่ห่างเหิน
ระหว่างที่รดไปจน ถึงต้น "เพชรพระอินทร์" ซึ่งเป็นชื่อกล้วยไม้ชนิดหนึ่ง มีหนึ่งดอกกำลังบาน เพราะเป็นต้นเล็กๆ บานเพียงแค่ดอกเดียวจึงดูโดดเด่นมากๆ ฉันรอคอยเพื่อที่จะดูดอกของเขามานาน เมื่อบานแล้วสวยมาก รู้สึกตื่นเต้นดีใจ เหมือนกับทุกครั้งที่เจอดอกไหนที่รอคอยมาแสนนานบานสะพรั่งอวดสายตา แต่คิดแล้วก็ใจหายวาบ หากวันนี้ยังไม่ยอมมารดน้ำต้นไม้ ฉันคงต้องรอไปอีกแสนนานกว่าดอกเขาจะบานอีกครั้ง หากฉันพลาดไปปล่อยเวลาให้ผ่านไป ดอกคงโรยรา และอาจจะน้อยใจไม่ยอมมาอวดโฉมอีกครั้ง



และไม่เพียงแต่เพชรพระอินทร์ ดอกอื่นๆ ก็บานอยู่พร้อมๆ กัน อย่าง เอื้องแซะภูกระดึง

ดอกสีขาวๆ ใสบาง ดูน่าทะนุถนอม



อีกหนึ่งดอกเล็กๆ น่ารัก ชื่อ "กุหลาบผา" สวยน่ารักน่าเอ็นดู


สุดท้ายสวยแบบน่ารักน่าเอ็นดูเช่นกัน ยังไม่รู้จักชื่อที่แน่นอน คนขายบอกว่าชื่อ "เอื้องสายสั้น" ยังหาข้อมูลมายืนยันไม่ได้ ชมแต่ความน่ารักไปพลางๆ



ถึงตรงนี้ฉันอยากจะบอกทุกคนที่รัก และปลูกต้นไม้ว่า การรดน้ำไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการใช้แรงและเวลาเพื่อให้น้ำต้นไม้แต่เพีย งเท่านั้น แต่การรดน้ำต้นไม้คือการให้เวลา และเอาใจใส่กับสิ่งที่เรารัก และสิ่งที่เราจะได้รับกลับคือความรักจากต้นไม้เช่นกัน คือออกดอกบานให้เราได้ชุ่มชื่นในหัวใจ เมื่อเราลงมือดูแล รดน้ำต้นไม้ด้วยตัวเอง ทำให้เราได้สัมผัส ได้สังเกตต้นไม้ ได้เห็นพัฒนาการการเติบโต ออกดอกบานเมื่อใดเราก็ไม่พลาดที่จะได้ชื่นชม

18 ส.ค. 2548

เปิดสมุด...บันทึกของดอกไม้



เ คยคิดมานานว่าอยากจะมีบันทึกของดอกไม้บ้าง แล้วก็คิดอยู่ตลอดไม่ลงมือทำเสียทีจนวันนี้ได้เริ่มเปิดสมุดบันทึกกับเขา เสียที คิดอยู่ทุกครั้งเวลาที่เห็นดอกไม้แล้วบอกกับตัวเองว่ารู้สึกอย่างไร ใครที่ชื่นชอบและรักดอกไม้คงจะรู้ว่าอารมณ์นั้นเป็นอย่างไร และรู้สึกได้มากแค่ไหน ดอกไม้จึงมีเรื่องราวมากมายที่เราจะสามารถถ่ายทอดออกมาได้ เปิดสมุดบันทึกนี้ไว้ และบอกกับตัวเองว่า ที่นี่จะเป็นที่ที่ให้ฉันเก็บได้ทุกอย่าง ในอารมณ์ของดอกไม้

ภาพและที่มา:

นางอั้วแก้มช้ำ Havenaria rostellifera Rchb. f.
ต้นเล็กๆ ที่ปลูกไว้